Tag: ดูแลสัตว์เลี้ยง

  • วิธีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงน้องหมามือใหม่ทำอย่างไรให้เป็นมือโปร

    วิธีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมสำหรับการเลี้ยงน้องหมามือใหม่ทำอย่างไรให้เป็นมือโปร

    สำหรับคนที่กำลังจะมีน้องหมาภายในบ้าน แต่ก็ยังเป็นมือใหม่อยู่เพราะยังไม่เคย มีสมาชิก 4 ขามาก่อน แล้วอยากจะแนะนำสิ่งที่คุณควรที่จะจัดเตรียมให้เรียบร้อยก่อนที่จะรับสมาชิกใหม่เข้ามา เป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณ นี่ก็คือสิ่งที่คุณนั้นควรที่จะเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการลดระยะเวลาที่ต้องใช้และเตรียมความพร้อมสิ่งที่คุณนั้นควรที่จะต้องใส่ใจก็มีไม่กี่อย่าง ถ้าหากคุณเข้าใจอย่างถูกต้อง คุณก็สามารถเลือกได้ถูกต้อง 100% อย่างแน่นอน ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะกับสายพันธุ์และขนาด  คุณควรจะมองดูขนาดที่เหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณว่า จะสามารถโตได้ไปถึงขนาดไหน ในบางครั้งอาจจะต้องแบ่งพื้นที่เผื่อเขาโตมากยิ่งขึ้น จะต้องใช้งานได้อย่างน้อย 1 – 2 ปี ในระยะยาวถ้าหากเป็นหมาขนาดใหญ่ อย่างเช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์หรือไซบีเรียนฮัสกี คุณอาจที่จะต้องซื้อ size Big ก็ได้ขอแนะนำเลย จัดเตรียมพื้นที่สำหรับเขา  ถ้าหากเป็นน้องหมาตัวเล็กๆ ก็สามารถปล่อยในพื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นสุนัขตัวโตตัว ในอนาคตจะเป็นน้องหมาตัวใหญ่ ขอแนะนำให้คุณนั้นลองพิจารณาพื้นที่กว้างหลังบ้านหรือบริเวณที่เขาสามารถปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่ จะสามารถช่วยทำให้การอยู่อาศัยของคุณผ่อนคลายได้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ในการเลี้ยงสุนัขที่จำเป็นที่คุณควรที่จะเตรียมเอาไว้   สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นในการเลี้ยงสุนัขนั้น ก็จะมีอยู่หลากหลายอย่าง แต่สิ่งที่เหมาะสมที่สุดนั่นก็คืออุปกรณ์พื้นฐาน ถ้าหากคุณเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถรับมือน้องหมาตัวป่วนคุณได้ภายในทันที สิ่งที่จำเป็นนั่นก็คือ สายจูงปลอกคอสุนัข ถ้วยข้าวและถ้วยน้ำสำหรับหมา ที่นอนที่เหมาะสมเอาไว้ให้กับสุนัขได้ผ่อนคลายเวลาพักผ่อนของเขา ของเล่นที่สามารถเปิดปล่อยพลังของเขาได้ ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ จะสามารถช่วยทำให้สุนัขของคุณได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน สรุป อย่างสุดท้ายสำหรับการเลี้ยงสุนัข นั่นก็คือการฝึกฝนและการเอาใจใส่…

  • เทคนิคการจีบแมวจรให้หลงรักทาสอย่างคุณ ( ฉบับเริ่มต้น )

    เทคนิคการจีบแมวจรให้หลงรักทาสอย่างคุณ ( ฉบับเริ่มต้น )

    การจีบแมวจร หรือแมวที่ไม่มีเจ้าของนั้นเป็นอะไรที่ท้าทายเหล่าทาสทุกคนจริงๆ เลยนะคะ เพราะเชื่อได้เลยว่าต้องมีหลายครั้งที่เพื่อนๆอาจจะรู้สึกถูกชะตากับน้องแมวเหมียวที่ไม่มีเจ้าของ และพยายามที่จะหาวิธีที่จะรับเลี้ยงน้อง แต่หลายๆ ท่านก็น่าจะไม่มีมุกในการจีบน้องแมวจรใช่ไหมคะ เรามีวิธีดีๆ ที่จะบอกเลยว่าเพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้ เหมียวๆ ทุกตัวที่คุณหมายตา ก็จะต้องมาอยู่ในความครอบครองอย่างแน่นอน How to จีบแมวจรจัดฉบับกระเป๋าแบบง่ายๆ  การมอบความรักด้วยอาหารอยู่สม่ำเสมอ การเริ่มต้นตั้งแต่ครั้งแรกในการจีบแมวจร นั้นควรจะมาให้รูปแบบอาหาร ที่ควรให้ในเวลาเดิมๆ ทุกๆ วัน ให้น้องนั้นรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย นั่นเอง โดยถ้าหากมีความไว้ใจ และสนิทในระดับหนึ่งแล้ว น้องเหมียวน้อยที่คุณหมายตาก็จะลาออกจากการเป็นแมวจร กลายเป็นแมวที่มีเจ้าของทันที การเริ่มต้นหากับดัก ที่มีความปลอดภัยกับน้อง สำหรับการเริ่มต้นในการหากับดัก เพื่อจับแมวจรกลับเข้าบ้าน เพื่อนๆนั้นควรจะต้องมีกรงดักแมว ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ที่สำคัญจะต้องเป็นรูปแบบกรงที่ไม่ทำให้น้องต้องบาดเจ็บ โดยจะต้องสามารถวางอาหารที่เหมียวน้อยชอบไว้ในกรง เพื่อดึงดูดให้เขาเข้าไปค่ะ สร้างมิติของการอยู่ร่วมกัน และมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกวัน สำหรับน้องเหมียวที่เป็นน้องใหม่ภายในบ้าน หลังจากที่จับน้องได้แล้วนะคะเพื่อนๆ ก็ควรจะโผล่หน้าต่อไปให้เขาเห็นทุกๆวัน และมีการพูดคุยเบาๆ เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ค่ะ และหมั่นเปลี่ยนอาหารตลอดจนทำความสะอาดให้น้องอยู่บ่อยๆ นะคะ เริ่มต้นหาของเล่นให้กับน้องแมว  หนึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ ได้ใกล้ชิดกับน้องได้เร็วมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือ การใช้ของเล่นอาทิเช่น เบ็ดตกแมว หรือลูกบอลสำหรับน้องเหมียว เพื่อเป็นการสร้างความคุ้นเคย โดยควรพยายามเล่นกับเขาในทุกๆ วันนะคะ ต้องหมั่นสังเกตอ่านท่าทางของน้องเหมียว …

  • รวมข้อมูลลับ กับการสื่อสารของน้องหมาที่คุณรัก

    รวมข้อมูลลับ กับการสื่อสารของน้องหมาที่คุณรัก

    การที่พวกเราสามารถทำความเข้าใจในความหมายของน้องหมาได้นั้น เป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าน้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความพิเศษสุดๆ  ทั้งนี้พวกเขานั้นสามารถสื่อสาร และเข้าใจในภาษาของเราได้อีกด้วยนะ แต่ทว่าเพื่อนๆเชื่อไหมว่า ทุกท่านก็สามารถที่จะเรียนรู้ในภาษากายของพวกเขา ได้เช่นกัน โดยจะมีวิธีสังเกตได้จากการแสดงออกของท่าทางรวมไปจนถึงอวัยวะส่วนต่างๆ ของน้องๆ ที่จะแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหาง หู ปาก และลักษณะการสื่อสารและการแสดงออกของพวกเขานั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่มหัศจรรย์มากเลยจริงไหมคะ ถ้าอยากรู้ความลับมากยิ่งขึ้นเชิญทางนี้เลยค่ะ How to ในการสื่อสารท่าทางของน้องหมาของคุณ น้องๆ สุนัขทุกๆสายพันธุ์ นั้นสามารถทำการสื่อสารผ่านรูปแบบเสียงและภาษากายเสียส่วนใหญ่ ที่จะออกมาในลักษณะการขู่, คำรามหรือการเห่า พร้อมท่าทางการแสดงออกต่างๆ ที่สอดคล้องกันเป็นอย่างมาก โดยสิ่งที่เพื่อนๆ จะพบเห็นอยู่เป็นประจำนั่นก็คือ การกระดิกหาง,การเห่า, การหอน และการเรียนโดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้สามารถตีความหมายได้แบบกว้างเป็นอย่างมาก แต่ไม่ต้องห่วงนะ เพราะทางเราได้รวบรวมความหมายของเสียงร้อง พร้อมภาษาน้องหมามาให้คุณแบบฉบับกระเป๋าแล้วที่นี่ รูปแบบการสื่อสารผ่านใบหู และดวงตา การสื่อสารที่พบได้บ่อยคือ ผ่านลักษณะใบหูและดวงตา ได้แก่ถ้าน้องหมารู้สึกสงบใบหูจะอยู่ในลักษณะเป็นธรรมชาติปกติ แต่ถ้าหากใบหูตั้งตรงแสดงว่ากำลังตื่นตัว หรือพยายามที่จะแสดงอำนาจ แต่เมื่อใดก็ตามที่ใบหูลู่ลงไปแนบกับศีรษะหลัง แสดงว่าน้องเครียด หรือกลัวโดยแววตาของน้องก็บ่งบอกอารมณ์ได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน เช่นการจ้องมองโดยตรงจะสื่อถึงอำนาจ และการควบคุมของการเป็นจ่าฝูงทั้งนี้เมื่อรู้สึกไม่มีความสุขพวกเขาก็จะหลบตาเช่นเดียวกันนั่นเองคะ รูปแบบของการสื่อสารของน้องหมา ผ่านทางปากหาง และขน น้องหมาจะใช้รูปแบบการสื่อสารในลักษณะดังต่อไปนี้ อาทิเช่น การยกหางขึ้นตรงสะบัดไปมาอย่างรวดเร็ว แสดงว่าเขากำลังตื่นเต้นดีใจ แต่เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกกังวล…

  • เรื่องเหมียวๆ กับสุขภาพดีด้วยการกิน

    เรื่องน้องแมวเหมียวกับเรื่องกิน ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่คู่กันนะคะ เพื่อนๆ เชื่อไหมว่าน้องเหมียวบางตัวจะกินอาหารแทบทุกชนิดแต่ก็มีอีกหลายๆ ตัว ที่มักจะเมินอาหารเกือบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรสำหรับเราผู้ที่รักในความอวบอั๋นตัวอ้วนขนยาวปุกปุยนี้หมดใจ ก็ต้องอยากดูแลสุขภาพ และพยายามสรรหาอาหารมาเพื่อให้พวกเขาได้ทานกันอย่างมีความสุข และจะดียิ่งกว่านั้นถ้าหากในทุกๆ มื้อ จะดีต่อสุขภาพของ เหมียวน้อยของพวกเราจริงไหมคะ ถ้าอย่างนั้นเรามาเจาะลึกเรื่องอาหารที่ดีต่อเพื่อนๆตัวน้อยของเรากันดีกว่าเชิญทางนี้เลยน้า สุดยอดคำถามคลาสสิค แมวเหมียวเป็นสัตว์ที่กินเนื้อหรือกินพืช  ไม่ว่าใครก็ตามทีที่เพิ่งจะมีประสบการณ์เลี้ยงแมวเหมียวหรือจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่หลงรักแบบจับจิตจับใจเลี้ยงมาแล้วอย่างยาวนานก็มักจะมีคำถามแปลกๆ น่ารักๆ ที่ว่าเจ้าเหมียวน้อยที่บ้านของเรา นั้นเป็นสัตว์ที่กินเนื้อเป็นหลักหรือสามารถกินพืชได้กันแน่ ที่นี่มีคำตอบให้ทุกคนเลยนะคะ น้องแมวสามารถกินพืชเป็นอาหารหลักได้หรือไม่? คำตอบก็คือว่าเพื่อนๆ ไม่ควรให้แมวกินอาหารจากพืชเป็นหลักเสียทีเดียวนะคะ แม้ว่าจะมีการให้อาหารเสริมจนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายของน้องๆ แต่ทั้งนี้อาหารที่เกี่ยวกับพืชจะไม่เหมาะสมกับแมวเสียทีเดียวเลยนะขอบอกค่า เหมียวๆ น้องสามารถกินได้แต่อาหารประเภทเนื้อใช่หรือไม่ ? ถูกต้องแล้วค่ะ แม้เจ้าเหมียวน้อยน้องจะสามารถกินเนื้ออยู่เสมอ เพราะเหมียวก็ควรจะได้รับอาหารในกลุ่มกรดอะมิโนที่มีอยู่ในโปรตีนเนื้อสัตว์ เนื่องจากจะเป็นการดีต่อสุขภาพน้องแมวอีกด้วย โดยถ้าหากขาดหรือไม่ได้รับทางด้านกรดอะมิโนในระยะเวลาเพียงแค่ 1-2 วัน ก็อาจจะทำให้เจ้าเหมียวน้อยป่วย และเป็นโรคแทรกซ้อนก็เป็นได้นะ และถ้าจะให้ดีควรจะให้อาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน และโปรตีนสูงเพื่อน้องเหมียวน้อยที่มีสุขภาพดีอยู่เสมอนั่นเองค่ะ เปิดตำราน้องแมวกินอะไรได้บ้าง ? เจ้าแมวเหมียวควรจะได้รับอาหารที่ดีมีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ทางด้านสุขภาพของตัวเขาเอง ตอนนี้ยังมีอาหารหลากหลายประเภทที่ถูกเสริมสร้างมาเพื่อเหมียวๆ สุดที่รักของเพื่อนๆ แบบเต็มคาริเบลไม่ว่าจะเป็น อาหารเม็ด  อาจเรียกว่าอาหารแห้ง เป็นสิ่งที่สะดวกต่อการจัดเตรียม และดีต่อสุขภาพน้องๆ ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ อาหารเปียก  อาหารประเภทนี้นะคะ มักจะถูกจำหน่ายอยู่ในรูปแบบกระป๋องหรือซอง ที่จะมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ในซอสเกรวี่หรือรูปแบบเจลลี่เหมาะมากสำหรับเหมียวน้อยโดยเฉพาะถ้าน้องแมวไม่ค่อยดื่มน้ำหรือมีปัญหาทางด้านโรคไต…

  • เคล็ดลับการดูแลน้องเหมียวในหน้าหนาวอย่างง่ายๆ ได้ด้วยมือคุณ

    มาเรียนรู้เคล็ดลับง่ายๆ กันเลยนะคะ กับการดูแลสุขภาพและความแข็งแรงของน้องเหมียวที่ทุกคนรัก โดยที่หน้าหนาวนั้นเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ควรให้ความสำคัญกับเจ้าเหมียวน้อยของเราด้วยนะคะ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและดูแลสุขภาพพวกเขาให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่กับพวกเราไปนานๆ ถ้าความเห็นเราตรงกันแล้วเชิญทางนี้ได้เลยค่ะ 4 Step ง่ายๆ  Take care ดูแลสุขภาพแมวเหมียวในฤดูหนาว เชื่อได้เลยว่าเพื่อนๆ น้องๆ คนไหนที่มีน้องเหมียวไว้ในครอบครอง อาจจะต้องคิดถึงเรื่องนี้กันเป็นอย่างดีเลยจริงไหมคะ ว่าแต่ใครเลยจะปล่อยให้เจ้าแมวน้อยแสนรักของเราเป็นไข้ หรือไม่สบายกันล่ะ ถ้างั้นเรามาเริ่มต้นดูแลกับ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ทางนี้เลยค่า สวมเสื้อให้น้องเหมียวแสนรัก ขั้นตอนแรกนี้เพื่อนๆ อาจจะต้องเตรียมเสื้อผ้าแมวที่ใส่แล้วพอดีกับตัว แมวน้อยแสนรักของ เรา เพื่อช่วยในการเก็บความร้อนและให้เจ้าเหมียวน้อยรู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาวเป็นอันดับแรก ที่สำคัญควรทำความสะอาดเสื้อผ้า อยู่อย่างสม่ำเสมอจะเป็นการดีเลยทีเดียวนะคะ จัดที่นอนของน้องให้อบอุ่น ทุกคนจะต้องสร้างมุมที่เจ้าเหมียวน้อยรู้สึกอบอุ่น ด้วยมุมผ้าห่ม หรือที่นอนในมุมอับที่ลมไม่พัดผ่าน ซึ่งอาณาเขตนี้เจ้าเหมียวๆ ของเราจะชื่นชอบมากทีเดียวเชียวล่ะ หมั่นดูแลสุขภาพและสังเกตบ่อยๆ จะเป็นการดี การสังเกตอาการหวัดของน้องเหมียวของเรานั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็น ซึ่งทุกท่านควรจะหมั่นสังเกตอาการหวัด น้ำมูก หรืออุณหภูมิในร่างกายของน้องเหมียวอยู่เสมอเลยนะ โดยถ้ามีอุณหภูมิในร่างกายที่ต่ำเกินไป ก็ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ด้วยด่วนเลยนะคะ ต้องขยันทำความสะอาดในพื้นที่ที่น้องอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพและความแข็งแรงของแมวเหมียวคู่ใจของเพื่อนๆ ทุกคน ความสะอาดก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอันดับต้นๆ และทุกคนควรจะทำความสะอาดในทุกบริเวณที่น้องได้อาศัยอยู่จะเป็นการดีที่สุดเลย How to ป้องกันโรคหวัดในฤดูหนาวของน้องเหมียว  สำหรับขั้นตอนในการดูแลน้องเหมียวขวัญใจของทุกๆ คนให้แข็งแรงอยู่เสมอ เป็นเรื่องที่สามารถทำได้อย่างสบายๆ…

  • ขูดหินปูนให้กับสัตว์เลี้ยงจำเป็นมั้ย?

    ขูดหินปูนให้กับสัตว์เลี้ยงจำเป็นมั้ย?

    สุขภาพช่องปากของสัตว์เลี้ยงมักเป็นสิ่งที่ถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง การดูแลฟันของน้อง ๆ เช่น การขูดหินปูน ก็จะเป็นขั้นตอนสำคัญที่คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงควรใส่ใจ เพราะหากปล่อยให้มีหินปูนสะสมในระยะยาวก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้อย่างมาก สาเหตุของการเกิดหินปูนในสัตว์เลี้ยง หินปูนเกิดจากการสะสมของคราบน้ำลาย เศษอาหารและแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามซอกฟันและใต้ขอบเหงือก ซึ่งเป็นจุดที่ยากต่อการทำความสะอาด หากสัตว์เลี้ยงไม่เคยได้รับการแปรงฟันหรือดูแลช่องปากที่เหมาะสม คราบเหล่านี้จะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นหินปูนที่แข็งและนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ในช่องปากอื่น ๆ ต่อไปได้ หากไม่ขูดหินปูนในสัตว์เลี้ยงจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง? การสะสมของหินปูนในระยะยาวส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น กลิ่นปาก โรคเหงือกอักเสบ ซึ่งหากปล่อยให้มีอาการรุนแรงขึ้น อาจเกิดการติดเชื้อในเหงือกและนำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด หากยังไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ก็อาจมีอาการเหงือกร่น ฟันหลุดหรือจำเป็นต้องถอนฟัน ซึ่งสามารถสร้างความเจ็บปวดให้สัตว์เลี้ยงหรือทำให้เขาไม่อยากกินอาหารก็ได้ นอกจากนี้หินปูนยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์เลี้ยง ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ มากขึ้นไปอีก   กระบวนการขูดหินปูนในสัตว์เลี้ยง การ ขูดหินปูนในสัตว์เลี้ยง โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อเคส โดยจะมีขั้นตอนตามมาตรฐานดังนี้ ตรวจเลือดก่อนการขูดหินปูน เพื่อประเมินสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและตรวจสอบว่าพร้อมรับการรักษาหรือไม่ หากผลเลือดเป็นปกติ จึงจะสามารถดำเนินการขูดหินปูนได้ งดน้ำและอาหาร สัตว์เลี้ยงต้องงดน้ำงดอาหารเป็นเวลา 6-12 ชั่วโมงก่อนการขูดหินปูน เพื่อป้องกันปัญหาขณะใช้ยาสลบ การวางยาสลบ…

  • ทำยังไงถึงจะพาแมวมาเป็นเพื่อนใหม่ให้กับหมาในบ้านได้

    ทำยังไงถึงจะพาแมวมาเป็นเพื่อนใหม่ให้กับหมาในบ้านได้

    การนำสัตว์เลี้ยงชนิดใหม่เข้ามาในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อต้องการให้น้องหมาและน้องแมวซึ่งมักจะไม่ถูกกันมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข การทำให้พวกเขาปรับตัวเข้าหากันต้องใช้เวลา ความเข้าใจและขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อให้ทั้งสองปรับตัวเข้ากันได้โดยไม่เกิดความเครียดและขัดแย้งกัน โดยอาจจะเริ่มจากขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อที่จะช่วยให้หมาและแมวอยู่ด้วยกันได้อย่างดีก็ได้ ขั้นตอนแนะนำให้น้องหมาและน้องแมวรู้จักกัน แยกพื้นที่ ในช่วงแรกควรแยกน้องหมาและน้องแมวออกจากกัน เพื่อป้องกันการทะเลาะหรือไล่ตามกัน อย่าให้น้องหมาวิ่งไล่ตามน้องแมวไปมาเด็ดขาด โดยต้องทำให้แน่ใจว่าบ้านของเรามี พื้นที่เพียงพอ ให้น้องทั้งสองมีพื้นที่ส่วนตัว ที่จะช่วยให้พวกเขาคุ้นเคยและปลอดภัย สลับห้องให้น้องหมาและน้องแมว สลับให้น้องหมาและน้องแมวเข้าไปในห้องของอีกฝ่าย เพื่อให้ทั้งคู่ดมกลิ่นของกันและกันผ่านสถานที่ที่อีกฝ่ายเคยอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้น้องหมาและน้องแมวคุ้นเคยกับกลิ่นใหม่ ๆ และเตรียมพร้อมที่จะเจอกันโดยไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นการคุกคาม นำทั้งคู่มาเจอกัน เมื่อเริ่มพาน้องหมาและน้องแมวมาเจอกัน ควรให้ทั้งสองเห็นกันในระยะที่ปลอดภัยและควบคุมได้ หากน้องแมวมีท่าทีตกใจหรือวิ่งหนี หรือหากน้องหมามีความตื่นกลัว ตื่นเต้น แลบลิ้นเลียปากรัว ๆ ส่งเสียงร้อง ก็ควรแยกทั้งสองออกไปก่อน เพื่อให้เวลาทั้งคู่ได้ปรับตัว เมื่อทั้งคู่คุ้นชินกันแล้วก็ค่อย ๆ นำทั้งคู่มาเจอกันในระยะใกล้มากขึ้น โดยไม่ต้องปล่อยให้พวกเขาสัมผัสตัวกัน เพียงแค่เห็นหน้าเพื่อสร้างความคุ้นเคยก็พอ แสดงความรักกับทั้งคู่เท่ากัน สัตว์เลี้ยงอาจรู้สึกอิจฉาเมื่อน้องใหม่ได้รับความสนใจมากกว่า ดังนั้นควรแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเรารักและให้ความสำคัญกับทั้งสองเท่า ๆ กัน การมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันบ่อย ๆ จะช่วยให้น้องหมาและน้องแมวผ่อนคลายและปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายขึ้น ให้รางวัลและชมเชยพฤติกรรมที่ดี เมื่อน้องหมาแสดงพฤติกรรมที่ดี เช่น ทำตัวเป็นมิตรหรือไม่ก้าวร้าวต่อน้องแมว ควรให้รางวัลและชมเชย เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสม การตอบสนองเชิงบวกจะช่วยให้น้องหมาเข้าใจว่าไม่ควรไล่หรือล่าตัวน้องแมว จัดหามุมสงบให้น้องแมว น้องแมวควรมีพื้นที่ส่วนตัวที่น้องหมาเข้าไปไม่ถึง เช่น…

  • โรคไข้หวัดแมว ภัยร้ายที่ทาสควรรู้

    โรคไข้หวัดแมว ภัยร้ายที่ทาสควรรู้

    โรคไข้หวัดแมว (Cat Flu) เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในแมวโดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างเช่น ฝนตกหรือแดดออก ร่างกายของแมวก็จะมีโอกาสอ่อนแอและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากขึ้น เช่นเดียวกับมนุษย์ การพาแมวออกไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ หรืออยู่ในพื้นที่ที่แมวหลายตัวอยู่ร่วมกัน ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อหวัดเพิ่มได้ เชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดแมว โรคไข้หวัดแมวเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของแมว โดยมีเชื้อไวรัสหลักที่ทำให้เกิดโรค เช่น Feline herpes virus (FHV-1) และ Feline calicivirus (FCV) นอกจากนี้ ยังมีแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุเพิ่มเติม เช่น Chlamydia spp Bordetella bronchiseptica และ Mycoplasma spp ซึ่งเชื้อเหล่านี้พบได้ทั่วไปในอากาศ ความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์ของเชื้อที่แมวติดเชื้อ บางสายพันธุ์อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้แมวเสียชีวิตได้ การติดต่อของโรคไข้หวัดแมว โรคไข้หวัดแมวสามารถติดต่อกันได้ง่ายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำตา น้ำมูก ของแมวที่ติดเชื้อ แมวที่ได้รับเชื้อจะนำเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก ปาก หรือตา จากนั้นเชื้อจะเข้าสู่เซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบและแสดงอาการของโรค อันตรายยิ่งขึ้นเมื่อแมวอยู่ร่วมกันหลายตัวในพื้นที่เดียวกัน เนื่องจากจะทำให้การแพร่กระจายของเชื้อรวดเร็ว นอกจากนี้ แมวที่เคยป่วยเป็นไข้หวัดแมวและหายแล้ว ก็ยังสามารถเป็นพาหะนำเชื้อได้อีกด้วย อาการของโรคไข้หวัดแมว แมวที่ ติดเชื้อไข้หวัดแมว…

  • ไมโครชิพสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องมือสำคัญเพื่อป้องกันสัตว์สูญหาย

    ไมโครชิพสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องมือสำคัญเพื่อป้องกันสัตว์สูญหาย

    ไมโครชิพ (Microchip) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่ออกแบบมาเพื่อฝังไว้ในตัวสัตว์เลี้ยง ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเฉพาะตัวในรูปแบบของรหัส 15 หลัก ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวสัตว์และเจ้าของได้ง่ายขึ้นในกรณีที่สัตว์เลี้ยงสูญหาย ไมโครชิพนี้จะถูกบรรจุในครอบแก้วซึ่งปลอดภัยและไม่ทำปฏิกิริยากับร่างกายสัตว์เลี้ยง ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ โดยรหัสมาตรฐานที่ใช้ในไมโครชิพต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ ISO และ ICAR และเริ่มต้นด้วยหมายเลข 9 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก ประโยชน์ของไมโครชิพ การฝังไมโครชิพจะช่วยป้องกันสัตว์เลี้ยงสูญหายได้ดี หากน้องหมาหรือน้องแมวหลุดออกจากบ้านและถูกพบโดยบุคคลอื่นแล้วสัตว์เลี้ยงนั้นมีไมโครชิพ ก็จะสามารถสแกนรหัสด้วยเครื่องอ่านเฉพาะและตรวจสอบข้อมูลตามหาเจ้าของได้ทันที นอกจากนี้ยังใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง ลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงหรือยืนยันตัวสัตว์ในกรณีที่มีการซื้อขายหรือประกวดสัตว์ ขั้นตอนการฝังไมโครชิพ เตรียมไมโครชิพ ไมโครชิพที่ได้มาตรฐานจะถูกบรรจุในเข็มฉีดยาปลอดเชื้อ โดยผ่านการฆ่าเชื้อด้วยก๊าซ Ethylene Oxide เพื่อป้องกันการติดเชื้อระหว่างการฝัง ตรวจสอบรหัส ก่อนการฝังไมโครชิพ คุณหมอจะใช้เครื่องอ่านรหัสเพื่อสแกนเข็มที่บรรจุไมโครชิพ เพื่อตรวจสอบรหัสว่าไมโครชิพในเข็มตรงกับที่ระบุไว้บนซองบรรจุหรือไม่ ตรวจสอบไมโครชิพเก่า ก่อนการฝังไมโครชิพใหม่ คุณหมอจะทำการสแกนหาว่าสัตว์เลี้ยงมีไมโครชิพอยู่แล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันการฝังซ้ำ ฝังไมโครชิพ ไมโครชิพจะถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณระหว่างหัวไหล่ทั้งสองข้างของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้กันทั่วโลก ตรวจสอบหลังการฝัง เมื่อฝังไมโครชิพแล้ว คุณหมอจะทำการสแกนอีกครั้งเพื่อตรวจสอบว่าไมโครชิพอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและแสดงผลรหัสขึ้นบนเครื่องอ่าน ออกใบรับรอง เมื่อทุกขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์ คุณหมอจะออกใบรับรองที่ระบุหมายเลขไมโครชิพของสัตว์เลี้ยง เพื่อให้เจ้าของเก็บไว้เป็นหลักฐาน   ควรฝังไมโครชิพเมื่อไหร่? การฝังไมโครชิพสามารถทำได้ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงยังเล็ก อายุประมาณ 30-45 วัน หรือจะรอให้น้องโตขึ้นอีกนิดเป็นช่วงอายุ…

  • เลี้ยงนาก (Otter) ได้หรือเปล่า?

    เลี้ยงนาก (Otter) ได้หรือเปล่า?

    เมื่อพูดถึงสัตว์ที่มีความน่ารักจนหลายคนอยากจะเลี้ยง ตัวนาก หรือ Otter ก็จะเป็นหนึ่งในสัตว์ที่คนหลายคนใฝ่ฝัน ด้วยรูปร่างที่เล็ก ขนหนามันดูน่ากอดและพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร ซุกซน ชอบร้องโวยวายเสียงใสและขี้เล่น แต่ถึงอย่างนั้นในประเทศไทยนากก็ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงตามกฎหมายและเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ห้ามครอบครอง ล่า หรือค้าขาย โดยในบทความนี้จะมาอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับตัวนากในไทยให้ได้ฟังกัน ตัวนากในประเทศไทย นากในประเทศไทยมีทั้งหมด 4 ชนิด คือ นากเล็กเล็บสั้น นากใหญ่ขนเรียบ นากใหญ่จมูกขนและนากใหญ่ธรรมดา ซึ่งทุกชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 การลักลอบเลี้ยงหรือนำมาค้าขายถือเป็นความผิดร้ายแรง โทษของการกระทำผิดเกี่ยวกับการครอบครองเลี้ยงนากจะอยู่ที่ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาทและโทษในการค้านากจะอยู่ที่ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท อุปสรรคของการเลี้ยงนาก แม้ว่านากจะดูเหมือนสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก แต่การเลี้ยงนากนั้นไม่ง่ายเลย เนื่องจากนากเป็นสัตว์ที่มีนิสัยซุกซนและพลังงานสูง หากเลี้ยงในบ้านจะต้องใช้พื้นที่กว้างขวางและควรมีแหล่งน้ำสำหรับว่ายเล่น นากยังมีระบบเผาผลาญที่ทำงานสูงจึงมักจะหิวบ่อย อีกทั้งนากยังมีกลิ่นตัวที่แรงและการขับถ่ายที่มีกลิ่นแรงการรักษาทำความสะอาดและการฝึกการขับถ่ายให้ดีจึงสำคัญมากและมักจะต้องใช้ความใส่ใจมากกว่าที่คนเลี้ยงสัตว์ส่วนใหญ่จะสามารถทำได้ ทำให้การเลี้ยงนากในบ้านมีความท้าทายมากกว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั่วไปอย่างสุนัขหรือแมว มากไปกว่านั้นนากยังมีพฤติกรรมการเล่นที่รุนแรง ชอบกัดหรือเหวี่ยงตัวไปมาขณะกัด ซึ่งหากไม่ได้เลี้ยงและฝึกมาแต่เด็กก็มักจะควบคุมนิสัยนี้ของตัวนากได้ไม่อยู่จนอาจเกิดการบาดเจ็บได้ ผลกระทบจากการเลี้ยงนากเป็นสัตว์เลี้ยง ความนิยมในการเลี้ยงนากในปัจจุบันทำให้เกิดการลักลอบค้าสัตว์ป่าทั้งในประเทศไทยและประเทศโดยรอบด้วย นากหลายตัวถูกนำออกจากแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ส่งผลต่อการลดจำนวนประชากรของนากในธรรมชาติและทำให้ระบบนิเวศที่พวกมันมีบทบาทสำคัญเกิดความเสียหายและสร้างความเครียดให้กับตัวนากที่ถูกพัดพรากจากบ้านเกิดไปอย่างมาก ข้อแนะนำสำหรับคนรักนาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบนากแต่พบแล้วว่าตัวเองไม่สามารถเลี้ยงนากได้…