Tag: ดูแลน้องหมา

เคล็ดไม่ลับสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ที่ทำให้น้องหมาปลอดภัยจากเห็บหมัดมากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่โดยตรง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ที่มีเห็บหมัดชุกชุมและคอยทำร้ายน้องหมาของเรา โดยเฉพาะอยู่ในช่วงวัยกำลังโต ถ้าไม่อยากให้เป็นโรคภัยไข้เจ็บก็ขอแนะนำวิธีการเหล่านี้ จะสามารถช่วยปกป้องสุนัขของคุณได้เป็นอย่างดี ขอแนะนำให้คุณนั้นลองทำตามวิธีการเหล่านี้ดู รับรองได้เลยว่าจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอนและเป็นผลดีต่อผู้เลี้ยงอีกด้วย พยายามใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการป้องกันเห็บหมัดโดยเฉพาะ  สำหรับการป้องกันเห็บหมัดนั้น สามารถหยอดยาที่ด้านหลังต้นคอ จะสามารถช่วยป้องกันเห็บหมัดตามตัวของน้องหมาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากยังไม่ประสบความสำเร็จ ขอแนะนำให้พาไปหาสัตวแพทย์และฉีดยาป้องกันเห็บหมัดใต้ผิวหนังทุก 2 เดือน จะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมากมายและการใช้ปลอกคอป้องกันเห็บหมัดโดยเฉพาะก็สามารถช่วยได้ สุนัขตัวใหญ่ที่มีกลิ่นแรง จะสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี ขั้นตอนการอาบน้ำอย่างเหมาะสม  สำหรับขั้นตอนการอาบน้ำเพื่อกำจัดเห็บหมัดให้น้องหมาอย่างเหมาะสม คุณควรที่จะเลือกใช้วิธีการอาบที่ถูกต้องและสามารถกำจัดเรื่องเห็บหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันดับแรกให้คุณนั้นพยายามอาบน้ำให้สุนัขของคุณก่อน ด้วยการล้างตัวด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยแชมพูกำจัดเห็บหมัด ควรที่จะใช้ทุก 2 สัปดาห์ จะสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องเห็บหมัดได้จริง ส่วนวิธีการทำให้ขนของน้องหมาของคุณนั้นแห้งได้แบบง่ายๆ คุณควรที่จะใช้ไดร์เป่าผมหรือใช้วิธีการวางผ้าแห้งๆ แล้วพาน้องหมาทำความสะอาดกลิ้งเล่นบริเวณจุดเหล่านั้น นอกเหนือจากนี้ยังสามารถใช้แป้งป้องกันเห็บหมัดในการชโลมทั่วตัว จะสามารถช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เลยทีเดียว วิธีการป้องกันเห็บหมัดโดยการกำจัดสถานที่ บริเวณที่มีปัญหา  แน่นอนว่าเห็บหมัดนั้นมีจำนวนมากบริเวณที่เป็นโพรงหญ้าและบริเวณที่เป็นกองดิน มักจะมีเห็บหมัดอยู่ในจุดนั้น ควรที่จะต้องระวัง คุณนั้นไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงของคุณไปตามจุดเหล่านั้น ซึ่งจะมีปัญหาตามหลังมาอย่างแน่นอน เกี่ยวกับเรื่องเห็บหมัดเหล่านี้ เพราะว่าถ้าหากคุณปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของคุณเข้ามาภายในบ้าน หลังจากออกไปข้างนอกในทันที เป้าหมายต่อไปก็อาจจะเป็นคุณก็ได้ มีความเสี่ยงมากที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ในอนาคตได้ เพราะฉะนั้นแล้วคุณควรที่จะต้องระวัง

สำหรับคนที่กำลังจะมีน้องหมาภายในบ้าน แต่ก็ยังเป็นมือใหม่อยู่เพราะยังไม่เคย มีสมาชิก 4 ขามาก่อน แล้วอยากจะแนะนำสิ่งที่คุณควรที่จะจัดเตรียมให้เรียบร้อยก่อนที่จะรับสมาชิกใหม่เข้ามา เป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณ นี่ก็คือสิ่งที่คุณนั้นควรที่จะเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการลดระยะเวลาที่ต้องใช้และเตรียมความพร้อมสิ่งที่คุณนั้นควรที่จะต้องใส่ใจก็มีไม่กี่อย่าง ถ้าหากคุณเข้าใจอย่างถูกต้อง คุณก็สามารถเลือกได้ถูกต้อง 100% อย่างแน่นอน ควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะกับสายพันธุ์และขนาด  คุณควรจะมองดูขนาดที่เหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณว่า จะสามารถโตได้ไปถึงขนาดไหน ในบางครั้งอาจจะต้องแบ่งพื้นที่เผื่อเขาโตมากยิ่งขึ้น จะต้องใช้งานได้อย่างน้อย 1 – 2 ปี ในระยะยาวถ้าหากเป็นหมาขนาดใหญ่ อย่างเช่น โกลเดนรีทรีฟเวอร์หรือไซบีเรียนฮัสกี คุณอาจที่จะต้องซื้อ size Big ก็ได้ขอแนะนำเลย จัดเตรียมพื้นที่สำหรับเขา  ถ้าหากเป็นน้องหมาตัวเล็กๆ ก็สามารถปล่อยในพื้นที่ปลอดภัยภายในบ้านได้ แต่ถ้าหากว่าเป็นสุนัขตัวโตตัว ในอนาคตจะเป็นน้องหมาตัวใหญ่ ขอแนะนำให้คุณนั้นลองพิจารณาพื้นที่กว้างหลังบ้านหรือบริเวณที่เขาสามารถปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่ จะสามารถช่วยทำให้การอยู่อาศัยของคุณผ่อนคลายได้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ในการเลี้ยงสุนัขที่จำเป็นที่คุณควรที่จะเตรียมเอาไว้   สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นในการเลี้ยงสุนัขนั้น ก็จะมีอยู่หลากหลายอย่าง แต่สิ่งที่เหมาะสมที่สุดนั่นก็คืออุปกรณ์พื้นฐาน ถ้าหากคุณเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถรับมือน้องหมาตัวป่วนคุณได้ภายในทันที สิ่งที่จำเป็นนั่นก็คือ สายจูงปลอกคอสุนัข ถ้วยข้าวและถ้วยน้ำสำหรับหมา ที่นอนที่เหมาะสมเอาไว้ให้กับสุนัขได้ผ่อนคลายเวลาพักผ่อนของเขา ของเล่นที่สามารถเปิดปล่อยพลังของเขาได้ ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ จะสามารถช่วยทำให้สุนัขของคุณได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน สรุป อย่างสุดท้ายสำหรับการเลี้ยงสุนัข นั่นก็คือการฝึกฝนและการเอาใจใส่…

ความเสี่ยงอันดับ 1 ในช่วงนี้เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บของน้องหมา ถ้าหากคุณพบเจอสัตว์เลี้ยงของคุณมีอาการเหล่านี้ร่วมในชีวิตประจำวัน คุณนั้นอาจจะคาดคะเนได้เลยว่า สุนัขของคุณนั้นกำลังมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจ สิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้น้องหมานั้นมีอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้น เพียงแค่คุณพยายามที่จะสังเกตอาการเบื้องต้นก่อนที่จะมีอาการหนักและบานปลายในอาการตอนท้าย ก็จะสามารถช่วยให้น้องหมาของคุณนั้นมีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน นี่ก็คืออาการที่บ่งชี้ปัญหาสุขภาพโดยรวมเหล่านั้น อาการของโรคหัวใจและหลอดเลือดในสุนัข  อาการที่เกี่ยวข้องน้องหมาจะมีอาการเหนื่อยง่ายแรงน้อยและทำให้ออกกำลังกายไม่ไหว หายใจลำบากหายใจถี่และมีอาการหอบในลำคออยู่เสมอ มีอาการไอแห้งอยู่ตลอด บางครั้งตามด้วยเสมหะและมีเสียงหายใจเวลากลางคืนที่ผิดปกติ รับประทานอาหารได้น้อยลงผิดปกติหรือบางครั้งก็น้ำหนักตัวแปรปรวนอย่างรวดเร็วเนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารได้หรือของเหลวในร่างกายมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในสุนัขทุกตัว โดยเฉพาะอาการท้องบวมและหมดสติได้ง่าย ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับน้องหมาสุดๆ เลย ควรที่จะต้องระวัง รูปแบบประเภทโรคหัวใจในน้องหมาที่พบบ่อยในไทย  อาการที่พบบ่อยในประเทศไทยก็จะมีอยู่ 2 รูปแบบ ที่น้องหมาส่วนใหญ่นั้นเผชิญอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นก็คือ โรคลิ้นหัวใจเรื้อรัง (Chronic Valvular Heart Disease) น้องหมาประมาณ 80% มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่าส่วนใหญ่นั้นจะพบเจออยู่ในน้องหมาที่มีอายุมากพอสมควร ส่วนอีกอาการหนึ่งนั่นก็คือ โรคลิ้นหัวใจเสื่อมแบบพองขยาย (Dilated Cardiomyopathy) พบในลักษณะของน้องหมาพันธุ์ตัวใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงวัย 4 ปีถึง 10 ปีขึ้นไปอาการนั้นจะสามารถสังเกตได้ว่ามีอาการหอบและนอนมากผิดปกติ สิ่งเหล่านี้นั้นบ่งบอกว่าน้องหมาที่คุณดูแลอยู่มีปัญหาสุขภาพในปัจจุบัน วิธีการป้องกันและการตรวจสอบอย่างเหมาะสม  การพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ก็จะสามารถช่วยได้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นคุณควรที่จะต้องสังเกตว่าน้องหมาของคุณนั้นมีอาการผิดปกติหรือแปลกไปในลักษณะใดบ้าง สิ่งนี้จะสามารถช่วยทำให้สุนัขของคุณนั้นมีอายุยืนยาวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน และนี่ก็คือข้อมูลจากทางด้านศตวรรษแพทย์ที่ในปัจจุบัน…

ปัญหาใหญ่ที่สร้างความลำบากใจสำหรับคนที่รักน้องหมาน้องแมวเป็นชีวิตจิตใจ นั่นก็คือปัญหาที่เหล่าบรรดาสัตว์เลี้ยงของเรานั้นกินน้ำได้น้อยมาก ในบางครั้งบางวันก็ดื่มน้ำน้อยเสียจนมีอาการตัวร้อนบ้าง รวมไปถึงอาการอ่อนเพลีย เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างเราต่างกลุ้มใจ แต่คุณเชื่อไหมว่าวิธีการที่ดีที่สุดนั้นก็มีอยู่ ในการแก้ปัญหาเหล่านี้จากทางผู้ที่มีความเชี่ยวชาญกับการดูแลอย่างเหมาะสม คุณสามารถทำตามวิธีการเหล่านี้ได้โดยตรง จะสามารถช่วยกระตุ้นให้น้องหมาน้องแมวของคุณดื่มน้ำมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน พยายามเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ  ในบางครั้งในช่วงอากาศที่เย็นจัดหรือร้อนจัด น้องแมวและน้องหมานั้นจะมีความรู้สึกในเบื่อดื่มน้ำจากถ้วยเดิมๆ อยู่บ่อยครั้ง วิธีนี้จะทำให้กระตุ้นความอยากเพิ่มเติมได้มากและยังสามารถช่วยรักษาเกี่ยวกับความสะอาดไม่ให้ถ้วยน้ำของน้องแมวหรือน้องหมาสกปรก ขอแนะนำให้เปลี่ยนทุก 12 ชั่วโมง หรือ 6 ชั่วโมงได้ก็จะดีมากๆ เลย การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ใส่น้ำให้ดูสนุก  วิธีนี้จะได้ผลดีมากกับน้องแมวหรือน้องหมาที่ขี้เล่น นั่นก็คือใช้ถ้วยจานน้ำพุ ที่มีความสวยงามและเคลื่อนไหว จะสามารถช่วยทำให้น้องแมวน้องหมานั้นรู้สึกเพลิดเพลินใจได้มากในการดื่มน้ำ จะทำให้หันมาดื่มน้ำบ่อยมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนสำหรับน้องหมาที่ตัวโต คุณอาจจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเป็นใส่น้ำแข็งก้อนลงไปด้วย สิ่งนี้จะสามารถช่วยทำให้น้องหมาของคุณดื่มน้ำได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มความสนุกสนานและทำให้การดื่มน้ำของพวกเขาไม่น่าเบื่อ รับประกันได้ว่าช่วยได้100% พยายามเพิ่มอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำเข้าไปในมื้อหลัก  สิ่งที่หลายคนนั้นอาจจะคาดไม่ถึง นั่นก็คือการเพิ่มเติมน้ำซุปหรือเมนูอาหารที่เกี่ยวกับน้ำวางไว้ข้างๆ กับเมนูหลักที่เขากินเป็นประจำ สิ่งนี้ก็จะสามารถช่วยทำให้เขาดื่มน้ำเหล่านั้นเพิ่มเติมได้ได้รับความนิยมมากๆ ในเหล่าสัตว์เลี้ยง จะสามารถช่วยเพิ่มระบบการย่อยและทำให้การรับประทานอาหารนั้นดีมากยิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาการรับประทานมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย สรุป  แน่นอนว่าวิธีการเหล่านี้ใช้ได้ผลจริงกับน้องแมวและน้องหมา คนส่วนใหญ่อาจที่จะยังไม่ค่อยรู้ว่าวิธีการเหล่านี้สามารถช่วยเหลือสุนัขและน้องเหมียวของคุณได้ อยากที่จะแนะนำให้คุณลองนำไปใช้งานกับสัตว์เลี้ยงสุดรักของคุณดู ในช่วงเวลาที่เริ่มจะมีปัญหาเกี่ยวกับการดื่มน้ำที่น้อยลง จะช่วยทำให้สุนัข รวมไปถึงน้องแมวของคุณห่างไกลโรคภัยและสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน

การเลี้ยงสุนัขต้องใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากมีอาหารหลายประเภทที่สามารถทำให้สุนัขเกิดอันตรายหรือปัญหาสุขภาพได้ บทความนี้จะพูดถึงอาหารที่ห้ามสุนัขกินเด็ดขาด เพื่อให้เจ้าของสุนัขมีความรู้และสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างถูกต้อง จะได้ไม่เผลอทำร้ายน้องโดยไม่รู้ตัว  มีอาหารที่ทั้งกินได้และไม่ได้ด้วยนะ อาหารที่กินไม่ได้เรา แยกมา 7 ชนิด ดังนี้ แต่ก็ยังมีอีกมากมาย แต่เราเอาแค่หลักๆมาให้ก่อน   1.ช็อกโกแลต ช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในอาหารที่มีพิษต่อสุนัข เนื่องจากมีสารที่เรียกว่า ธีโอโบรมีน (Theobromine) ซึ่งสุนัขไม่สามารถ metabolize ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรับประทานช็อกโกแลตอาจทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย เพิ่มการเต้นของหัวใจ และในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เกิดอาการชักหรือเสียชีวิตได้ 2.หอมและกระเทียม หอมและกระเทียมมีสารที่เรียกว่า อัลลิซิน (Alliin) ซึ่งสามารถทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงในสุนัข ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง อาการอาจแสดงออกผ่านความอ่อนแอ อ่อนเพลีย หรือมีอาการเหนื่อยหอบ การรับประทานในปริมาณมากอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ 3.องุ่นและลูกเกด องุ่นและลูกเกดสามารถทำให้สุนัขเกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้ แม้ว่าจะยังไม่ทราบกลไกที่แน่ชัดว่าทำไม แต่นี่เป็นเรื่องที่มีการรายงานอย่างกว้างขวาง อาการที่เกิดขึ้นรวมถึงการอาเจียน เบื่ออาหาร ขาดน้ำ และความอ่อนเพลีย หากสุนัขมีอาการเหล่านี้หลังจากการบริโภคองุ่นหรือลูกเกด ควรนำไปพบสัตวแพทย์ทันที 4.กาแฟและชา เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟและชา ก็เป็นอันตรายต่อสุนัขเช่นกัน คาเฟอีนมีผลกระตุ้นระบบประสาทกลางและอาจทำให้เกิดอาการชัก เพิ่มการเต้นของหัวใจ และอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติได้ การบริโภคในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้…

สำหรับน้องหมา และน้องแมวเพื่อนของมนุษย์ทั้ง 2 ชนิด ถึงแม้ว่าอยู่กันคนละสายพันธุ์ก็ตามที แต่ก็มีสิ่งสำคัญที่เหมือนกันตรงที่รักเจ้าของเป็นที่สุดนั่นเองค่ะ น้องๆ จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างชอบหยอก และเอาอกเอาใจ โดยสิ่งที่ได้กล่าวไปนั้น เชื่อได้เลยว่าเพื่อนๆ ทุกคนต้องการเป็นอย่างมาก โดยทีนี้มาเข้าเรื่องดีกว่านะคะ สำหรับผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าเพื่อนๆ เองจะเลือกเลี้ยงน้องหมา หรือน้องแมวนั้นนะคะ ทางเราก็ขออนุญาตนำเสนอข้อมูล เพื่อเป็นตัวช่วยให้ทุกท่านได้ตัดสินใจกันง่ายขึ้นกับรายละเอียดต่างๆ ที่เพื่อนๆ หลายๆ คน อาจจะไม่เคยสังเกตมาก่อนเลยก็เป็นได้ เชิญทางนี้เลยค่า เกร็ดความรู้เจาะลึกเรื่องน้องหมา และน้องแมวที่เพื่อนๆ ควรรู้  สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในเรื่องบริเวณบ้าน และต้องการหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนคู่กาย แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกชนิดใด เรามาเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ระหว่างน้องหมา และน้องแมวไปพร้อมๆ กันที่นี่เลยนะคะ การสำรวจพื้นที่โดยรอบของน้องๆ ทั้ง 2 สายพันธุ์  น้องแมว เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ชื่นชอบออกลาดตระเวน ลุยเดี่ยวและอิสระสุดๆ น้องจะไปทุกๆ ที่ที่ตัวเขาต้องการ และจะกลับมาเมื่อเขาอยากจะกลับเท่านั้น รวมถึงถ้าตัวเขาเองอยากจะเอาอกเอาใจเจ้านายสุดที่รักก็จะรีบร้องเมี้ยวๆๆ แล้วกลับมาทันทีเลย น้องหมา ส่วนน้องหมานั้นเขาจะอยู่ ภายในอาณาเขตส่วนตัวนั่นก็คือบริเวณบ้านของตน โดยน้องจะออกจากบ้านเฉพาะในช่วงเวลาที่เจ้าของพาไปเดินเล่น ซึ่งช่วงเวลานั้นจะเป็นสิ่งที่เขาแฮปปี้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะแตกต่างกับน้องแมวแบบสุดขั้วเลยทีเดียวค่ะ พฤติกรรมโดยรวมของน้องๆ ทั้งสองชนิด   …