Tag: ดูหนัง
-
รีวิวหนัง The Shadow Strays นักฆ่าเงาล่าทรชน
The Shadow Strays นักฆ่าเงาล่าทรชน เป็นหนังบู๊แอคชั่นอีก 1 เรื่องที่มีความตื่นเต้นในการนำเสนอเรื่องราวที่จุใจทางด้านฉากแอ็คชั่น ทางด้านผู้กำกับอย่าง ติโม จาห์ยันโต้ ก็ได้รับเกียรติมากำกับหนังเรื่องนี้โดยตรงเช่นเดียวกัน ดีกรีของเขานั้นไม่ธรรมดา ถูกยกย่องจากวงการหนังของทางด้านอินโดนีเซียว่า สร้างหนังแนว Action และแนวสยดสยองออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและมีคุณภาพ นั่นจึงทำให้หนังเรื่องนี้ถูกสร้างออกมาให้มีอารมณ์ของตัวละครที่โดดเด่นมากและมีการนำเสนอเรื่องราวที่น่าชมตั้งแต่เนื้อเรื่องเลย ส่วนทางด้านเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงนักฆ่าที่เป็นหญิงสาวอายุ 17 ปีและมีโค้ดเนมเนต้า ที่เป็นรหัสอยู่กับตัวว่า 13 เธอนั้นได้เผชิญกับทางด้านเด็กผู้ชายที่เสียแม่จากเหตุการณ์อาชญากรรมและต้องการที่จะปกป้อง เนื้อเรื่องดำเนินออกมาได้เป็นอย่างดี เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ ลักษณะของลายเส้นตัวละครกล่าวถึงองค์กรนักฆ่าที่เธอนั้นสังกัดอยู่ ซึ่งองค์กรนี้ทำงานอย่างตรงระบบ ถ้าหากมีใครที่ผิดพลาดจะถูกลอยแพในทันทีและเธอคนนี้ก็เคยทำผิดพลาดในประเทศญี่ปุ่นทำให้การทำภารกิจของเธอไม่สำเร็จและเด็กคนนี้คือหนึ่งในผู้ที่สูญเสียแม่ไป เธอนั้นได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเด็กผู้ชายคนนี้ เพื่อให้เดินทางกลับไปได้อย่างปลอดภัย แต่เธอก็ได้ตัดสินใจผิดพลาด ได้ละเมิดกฎของทางองค์กรจึงถูกไล่ล่าอย่างดุเดือด หนังเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยฉากบู๊ล้างผลาญและการต่อสู้มีความรุนแรง ความดุดันในการต่อสู้โดยรวม ถือว่าตื่นเต้นทุกมุมเกี่ยวกับการเผชิญหน้าและการพบเจอศัตรูตลอดเส้นทาง การกำกับโดยรวมที่ตื่นเต้นและบท ติโม จาห์ยันโต้ นั้นเป็นหนึ่งในผู้สร้างหนังคิวบู๊ของเอเชียอีก 1 คนที่ได้รับชื่อเสียงในต่างประเทศว่าชาต่อสู้และชีวิตของเขาเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน มีมุมกล้องที่สวยและมีเสน่ห์ในลักษณะการต่อสู้ที่เข้าใจในรูปแบบการวางมุมกล้องอย่างแท้จริง ส่วนทางด้านตัวบทก็ถูกปรับออกมาอีกนิดหน่อย นั่นจึงทำให้ นักแสดงหญิง ออโรร่า รีเบโร และ ฮานา มาลาซาน มีจุดเด่นน่าดึงดูดใจในความเห็นของตัวละครมากยิ่งขึ้น ทำให้เหล่าบรรดาผู้ที่เข้ามารับชมต่างกล่าวถึงเธอในแง่บวกและคำชื่นชมว่านำเสนอคิวบู้ออกมาได้อย่างดูดีและมีสไตล์ แต่บางส่วนก็ไม่ค่อยน่าประทับใจมากนัก อาทิเช่น…
-
รีวิวจัดเต็มจากต่างประเทศ “Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ”
“Joker: Folie à Deux โจ๊กเกอร์ โฟลีย์ อา เดอ” เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นภาคต่อจากทางด้าน “Joker” (2019) ของ Todd Phillips ทำให้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์สูงมากจากนักวิจารณ์หนังว่า จะทำได้ออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะนักวิจารณ์หนังชื่อดังได้กล่าวถึงทางด้าน Joaquin Phoenix ที่ได้รับบทเป็น Arthur Fleck อีกครั้งว่าจะทำให้หนังเรื่องนี้แป๊กหรือปัง มาพร้อมกับ Lady Gaga ในบท Harley Quinn ในภาพยนตร์รูปแบบองค์ประกอบของดนตรี ภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ การดำเนินเรื่องนั้นจะเริ่มต้นจากทางด้าน Arthur Fleck ถูกกักขังใน Arkham Asylum การบอกเล่าเรื่องของการต่อสู้ระหว่างจิตใจของตัวเองของสองคนระหว่างการคุมขัง ทำให้คนดูเข้าถึงอารมณ์การวิจารณ์และความรู้สึกได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้นั้น เป็นรูปแบบของดนตรีที่ประกอบกับเรื่องราวของอารมณ์เข้าร่วม นั่นจึงทำให้ความเป็นหนังของโจ๊กเกอร์ มีข้อกังขามากมาย ส่วนคำแปลของชื่อหนังในภาษาฝรั่งเศส คือ ความบ้าคลั่งของสองคน นั่นจึงทำให้นักวิจารณ์โดยรวมได้กล่าวถึงมุมมองทางด้านอารมณ์ของหนังว่า เริ่มที่จะสงสัยแล้วว่าตัวภาพยนตร์และเพลงประกอบนั้นจะไปในทิศทางใด นักวิจารณ์หนังจากฝั่งยุโรป นักวิจารณ์หลากหลายกลุ่มก็ได้อธิบายถึงความลึกซึ้ง เกี่ยวกับการนำเสนอหนังเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่ภาคก่อน ในตอนนั้นได้มีการเปรียบเทียบความลึกซึ้งและเสียงสะท้อนของเนื้อหาโดยรวมว่า มีบทบาทที่บ้าคลั่งและนำเสนออารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี แถมยังยกย่องเอาไว้สูงมาก เรื่องนี้ที่นำเสนอออกมา…
-
รีวิวหนังใหม่ “หลวงพี่เท่ง Comeback” โคตรเฟี้ยว สุดยอดครบรอบ 20 ปี
“หลวงพี่เท่ง Comeback” เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนรอคอยกันอย่างมาก จากวงการนี้มานานเกือบ 20 ปี แต่ในตอนนี้ หนังเรื่องนี้ได้กลับมาเพิ่มเติมความสนุกมากอีกครั้งหนึ่งแล้ว เรื่องราวนั้นต่อจากที่หลวงพี่เท่กลับมายังประเทศไทย ในช่วงเวลาที่หายไปได้ไปแสวงบุญที่ประเทศทิเบตเป็นระยะเวลานาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังรักษากลิ่นอายและเอกลักษณ์ของกลุ่มลูกค้า ที่ชื่นชอบบรรยากาศความเฮฮาที่ไม่เปลี่ยนแปลง หนังเรื่องนี้มีการปรับปรุงหลากหลายอย่าง ที่ทำให้เข้าถึงยุคสมัยใหม่ได้มากยิ่งขึ้น บทรวมไปถึงเนื้อหาโดยรวมก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจมิใช่น้อย แต่โครงสร้างของความสนุกตลกเฮฮายังคงคอนเซ็ปต์เดิม เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์สายฮาที่หลายคนเฝ้าคอยคาดหวังในปัจจุบัน เนื้อหาเรื่องย่อแบบสั้นๆ หนังเรื่องนี้บอกเล่าถึงการเผชิญหน้าของหลวงพี่เท่ง ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศและพบการเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา เมื่อ 20 ปีก่อน เป็นเรื่องของการทำบุญและการเข้าวัดปฏิบัติด้วยแรงใจศรัทธา แต่ในทุกวันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก กลายเป็นแง่มุมของพุทธพาณิชย์ ที่ไม่ถูกต้องกับหลักคำสอนของพระออกแนวเป็นเชิงธุรกิจในปัจจุบัน ส่วนเรื่องราวนั้นก็ถือว่าสนุกสนานใช้ได้ แต่ยังติดตรงที่ว่าหลากหลายมุก ก็อาจที่จะดูล้าหลัง แต่อย่างไรก็ตามยังสอดแทรกในการสอนหลักธรรม เป็นสิ่งที่น่าเข้าไปดูเป็นอย่างมาก เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำเสนอเนื้อหาในบริบทสังคมใหม่อย่างแท้จริง การแสดงวางพล็อตเรื่องของโครงสร้างของหนัง บทรีวิวเกี่ยวกับหนังและนักแสดงเท่งเถิดเทิง ถือว่าเป็นจุดเด่นมาก เป็นรูปแบบที่มีสไตล์การเล่นมุกที่เรียบง่ายแต่ในบางครั้งก็อาจจะมีมุกที่เชยในการนำเสนอเรื่องราว โดยรวมภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีโครงสร้างเปลี่ยนแปลงมาไม่มาก ซึ่งคล้ายคลึงกับภาคแรกในปี 2548 เหมือนกับการ Remake ใหม่เลย แต่อย่างไรก็ตามการสอดแทรกธรรมะก็ถือว่าทำออกมาได้ดี นับว่าสร้างเสียงหัวเราะได้บ้าง แต่มุมกล้องและฉากบางจุดบางอย่างก็ยังไม่ไหลลื่นมาก เป็นอะไรที่น่าเสียดาย บทวิเคราะห์โดยรวมถึงข้อดีของหนังและข้อด้อย ข้อดีของหนังหลวงพี่เท่งนั้น รักษาฐานแฟนคลับได้ดีมากๆ เป็นหนังธรรมะที่ตลกและสอดแทรกความเป็นตัวของนักแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่มีแง่มุมทางด้านศาสนาให้คิดวิเคราะห์เพิ่มเติม ส่วนทางด้านแง่มุมข้อด้อยก็คงจะเป็นทางด้านมุกตลกที่ดูเชยล้าหลัง ในบางครั้งอาจจะเป็นมุกที่ฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ และตัวบทตัวละครอาจจะมีความคล้ายคลึงเหมือนกับเรื่องหลวงพี่เท่งภาคแรกพอสมควร…
-
รีวิวหนังน่าดู The Platform 2 กับการกลับมาในรอบ 4 ปี ที่รอคอย
พบกับการกลับมาอีกครั้งในรอบ 4 ปีของหนังแนวระทึกขวัญที่เรียกได้ว่าสามารถสร้างเสียงฮือฮา ให้กับผู้ชมเป็นอย่างมากกับเรื่องนี้ The Platform 2 ที่เรียกได้ว่าเป็นหนังสเปนที่ถูกจับตามองมากที่สุดณตอนนั้นกลับมาแล้ว สำหรับแพลตฟอร์ม 2 ที่จะพาทุกคนไปชมกับความเหลื่อมล้ำของสังคมอีก 1 ระลอกที่เรียกได้ว่าดูแล้วจิกหมอนไปตามๆกันเลยทีเดียว ใครที่เป็นแฟนๆหนังเรื่องนี้ห้ามพลาดกันเลย เรื่องราวที่น่าทึ่ง สำหรับเรื่องนี้ The Platform 2 เป็นเรื่องราวที่ได้ถูกเขียนขึ้นต่อจากเดิมจากผู้นำลึกลับที่ได้วางกฎเกณฑ์อันหฤโหดที่จะพาทุกคนเข้าสู่เรื่องราวต่อเนื่อง พร้อมเปิดฉากที่เขาได้เลือกต่อสู้กับระบบที่ล้าหลังกับการเผชิญหน้ากับขีดจำกัดของเหล่ามนุษย์ทุกท่าน ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องราวนั้น ทำให้เราดิ่งลงเหวที่ทุกคนเห็นกันในภาคแรกภาคนี้จะพามาดูกฎเกณฑ์ของคุกแนวตั้งอัณฑะหรือโหดกันต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไ รและเขาจะเผชิญหน้ากับกฎที่จะต้องดิ้นรนกับการจ่ายอาหารที่ชวนสะอิดสะเอียนแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ผู้กำกับเดิมที่มากความสามารถ หนังเรื่องนี้ ได้ผู้กำกับอย่าง กัลเดร์ กัซเตลู-อูร์รูเตีย เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับมากความสามารถ โดยจากหนังต้นฉบับที่ได้กลับมารับหน้าที่เดิมของเขาในภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่สามารถรับมือกับสถานการณ์และพร้อมที่จะสานต่อความสนุก พร้อมคุมโทนบรรยากาศของตัวหนังออกมาได้เป็นอย่างดี และพร้อมที่จะให้ผู้คนได้สัมผัสถึงเสน่ห์ที่ไม่จางหายไปเลยในภาคนี้โดยได้ มีการร่วมเขียนบทหนังด้วยกันกับเดวิดเดอโซล่าอีกด้วย และสำหรับภาคนี้ต้องบอกเลยว่ามีตอนจบที่สมบูรณ์ พร้อมปลุกเร้าอารมณ์ความหวั่นวิตกให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก งานภาพและเสียงที่มีคุณภาพ และสำหรับในภาคนี้ก็ได้มีตอนจบที่ดี พร้อมงาน Production ที่ถูกสร้างขึ้น โดยฉากต่างๆ ที่ออกมาได้เข้าถึงซีนอารมณ์เป็นอย่างมากและในส่วนของตัวนักแสดงนั้น ถึงแม้จะมีการใช้นักแสดงทีมชุดใหม่ทั้งหมด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ทุกคนรู้สึกบั่นทอนไปกับตัวหนังแต่อย่างไร แต่นักแสดงที่อยู่ในเรื่องภาพนี้ก็ต้องยอมรับปริญว่า เป็นผู้หญิงที่รับบทบาทได้เต็มดูเข้าถึงปีนอารมณ์โดยรับบท โดยมารีนา ชมิต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหญิงแกร่งที่แบกทั้งเรื่องเอาไว้บนบ่าเลยทีเดียว สำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมขอแนะนำว่าลองมาดูกันได้ สำหรับเรื่องนี้เริ่มฉายแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมเป็นต้นไป สามารถติดตามดูกันได้ที่…
-
5 หนังตลก Comedy ต่างประเทศ
หนังตลกจากต่างประเทศมีหลากหลายสไตล์และเนื้อเรื่องที่ชวนหัวเราะ บางเรื่องเน้นความตลกขบขันจากสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ขณะที่บางเรื่องเล่นกับมุกตลกทางวัฒนธรรม เกี่ยวกับหนังตลกจากต่างประเทศที่มีความหลากหลาย หนังตลกดียังไง? หนังตลกต่างประเทศโดยเฉพาะหนังตลกเก่าๆเหล่านี้ แต่ละเรื่องมีสไตล์และวิธีการเล่าเรื่องที่แตกต่างกัน ทั้งจากมุกตลกที่ซับซ้อน ไปจนถึงความบ้าบอไร้สาระ แต่ทั้งหมดล้วนสร้างความบันเทิงและความสนุกให้กับผู้ชมอย่างแน่นอน The Grand Budapest Hotel (2014) หนึ่งในหนังตลกที่ได้รับความนิยมและคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก กำกับโดย Wes Anderson หนังเล่าเรื่องราวของ Gustave H (รับบทโดย Ralph Fiennes) ผู้จัดการโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในยุโรป และการผจญภัยสุดฮากับลูกจ้างของเขา หนังเต็มไปด้วยมุกตลกที่ซับซ้อน ความแปลกประหลาด และการถ่ายทอดฉากในรูปแบบสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Anderson ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและความตลกได้อย่างลงตัว Jojo Rabbit (2019) เป็นหนังตลกเสียดสีที่เล่าถึงเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กำกับโดย Taika Waititi หนังพูดถึง Jojo เด็กหนุ่มที่มีเพื่อนในจินตนาการเป็น Adolf Hitler (รับบทโดย Taika Waititi) ความตลกของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การนำประเด็นทางการเมืองและสงครามมานำเสนอในแบบที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยอารมณ์ขันแบบเสียดสีแต่ก็ยังสามารถสะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามได้อย่างเฉียบคม Borat (2006) หนังตลกที่โด่งดังจากการแสดงของ Sacha Baron…
-
ดร.สเตรนจ์ จากหมอผ่าตัดสู่จอมเวทย์ในโลกแห่งมาเวล
ในโลกแห่งจักรวาลภาพยนตร์ของมาเวล Marvel Cinematic Universe (MCU) มีฮีโร่หลากหลายรูปแบบให้แฟน ๆ ได้ติดตามชมและเชียร์กัน โดยนอกจากฮีโร่แนวเทคโนโลยีและวิทยาศตร์แล้ว ก็ยังมีฮีโร่ซึ่งเป็นจอมเวทย์อยู่ด้วยมากมายหลายตัว แต่ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดทางด้านเวทมนต์นั้นก็คือ “ดร.สเตรนจ์” (Doctor Strange) อีกหนึ่งพ่อมดชื่อดังจากโลกมาเวลนั้นเอง “ดร.สเตรนจ์” (Doctor Strange) เป็นอีกหนึ่งตัวการ์ตูนฮีโร่ชื่อดังในตำนานของมาเวล ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือ Strange Tales เล่ม 110 ประจำเดือน มิถุนายน 1963 สร้างสรรค์โดยปรมาจารย์ผู้ได้ชื่อว่าบิดาแห่งมาเวลอย่าง “สแตน ลี” และ “สตีฟ ดิทโก้” นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง โดย “ดร.สเตรนจ์” เป็นจอมเวทย์หรือพ่อมดชั้นสูงในตำแหน่ง “Sorcerer Supreme” ผู้มีหน้าที่พิทักษ์ปกป้องโลกจากภัยคุกคามที่มาจาก “เวทมนตร์” ที่มาคุกคามโลกของเรา รวมทั้งภูตผีวิญญาณปีศาจทั้งหลาย สำหรับเนื้อเรื่องนั้นทั้งในบทของการ์ตูนและบทเวอร์ชั่นภาพยนตร์ดูจะคล้าย ๆ กันมากพอสมควร เพราะจะกล่าวถึง “ดร. สตีเฟ่น วินเซนต์ สเตรนจ์” นายแพทย์ชื่อดังทางด้านศัลยแพทย์ผ่าตัดฝีมือดีของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่เดิมนั้นเขามีนิสัยหยิ่งยโส อีโก้สูง เชื่อมั่นในตนเองเพราะฝีมือทางการแพทย์อันสุดยอด…
-
ใครเก่งแค่ไหนต้องหลบไปเมื่อกัปตันมาเวลมาเยือน
ถือเป็นจักรวาลภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากจากผู้ชมทั่วโลก นั้นก็คือจักรวาลภาพยนตร์ของมาเวล หรือ MCU ซึ่งแน่นอนว่านอกจากฮีโร่ตัวท็อปอย่าง “กัปตันอเมริกา” “ไอรอนแมน” และ “สไปเดอร์แมน” รวมทั้งฮีโร่ตัวอื่น ๆ อีกมากมายหลายตัวละคร แต่เมื่อมีการพูดถึงภาพยนตร์จากเหล่าฮีโร่ของมาเวลแล้วละก็ชื่อของ “กัปตันมาเวล” ย่อมขาดไปไม่ได้ในฐานะสุดยอดฮีโร่อันเป็นสัญลักษณ์ของมาเวลนั้นเอง โดยตัวละครการ์ตูน “กัปตันมาเวล” ฉบับ comic นั้น ถือเป็นอีกตัวละครที่มีที่มาค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่พอสมควร เพราะย้อนกลับไปในปี 1940 ถึง 1953 สำนักพิมพ์ Fawcett Comics ได้เคยมีการตีพิมพ์การ์ตูนที่มีตัวละครที่ชื่อ Captain Marvel อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ดันไปมีเรื่องฟ้องร้องด้านลิขสิทธิ์กับ DC ตั้งแต่ปี 1951 ส่วนมาเวลก็เฝ้ารอจนสิทธิเกี่ยวกับชื่อ “กัปตันมาเวล” ของสำนักพิมพ์ก่อนหน้าหมดลง ในปี 1967 มาเวลก็ได้รีบปล่อยตัวละครที่ชื่อ “กัปตันมาเวล” ออกมาและรีบไปจดสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าชื่อดังกล่าวไว้เป็นของตนเอง และถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือ Marvel Super-Heroes เล่ม 12 เดือน ธันวาคม ค.ศ. 1967 ลงมือสร้างสรรค์ตัวละครโดย “สแตน…
-
ชาง-ชี ยอดยุทธ์กังฟูในโลกของมาเวล
สำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์แนวฮีโร่ในปัจจุบันก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้วสำหรับจักรวาลภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel Cinematic Universe (MCU) ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นฮีโร่แนวตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ที่สวมชุดเกราะสุดไฮเทคอย่าง “ไอรอนแมน” ฮีโร่ที่เกิดจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์จนได้รับพลังมาอย่าง “กัปตันอเมริกา” ฮีโร่ที่ใช้เวทย์มนต์อย่าง “ดร.สเตรนจ์” ฮีโร่จากตำนานเทพโบราณอย่าง “ธอร์” แต่มีฮีโร่อยู่คนหนึ่งของมาเวล ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของคนฝั่งเอเชียนั้นก็คือ “ชาง-ชี” สุดยอดปรมาจารย์กังฟู “ชาง-ชี” เป็นหนึ่งในตัวละครการ์ตูนระดับตำนานของมาเวลปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือ Special Marvel Edition เล่ม 15 ในเดือน ธันวาคม ค.ศ. 1973 จากนั้นก็โด่งดังจนได้มีหนังสื่อเดี่ยวของตนเองในปี ค.ศ. 1983 แต่ต้นกำเนิดฉบับการ์ตูนของ “ชาง-ชี” ค่อนข้างจะแตกต่างจากการถือกำเนิดของตัวการ์ตูนฮีโร่ของมาเวลตัวอื่น ๆ นั้นก็เพราะต้นแบบของ “ชาง-ชี” มาจากตัวละครซีรี่ย์ทางโทรทัศน์เรื่อง “Kung Fu” (1972) ซีรี่ยแนวแอ็คชั่นต่อสู้สไตล์กังฟูโดยกล่าวถึงศิษย์วัดเส้าหลินจากประเทศจีนที่ต้องมาผจญภัยต่างๆในดินแดนตะวันตก ซึ่งว่ากันว่าในครั้งแรก “สตีฟ เองเกิลฮาร์ต” และ “จิม สตาร์ลิน” สองนักเขียนและนักวาดภาพที่ได้ให้กำเนิด “ชาง-ชี” ได้นำเรื่องไปเสนอกับทาง DC…