รีวิว Joker Folie a Deux (2024)

Joker Folie a Deux (2024) นั้นเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ Joker ที่เป็นเรื่องราวของหนังที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2019 โดยมีการกลับมาของ วาคิน ฟีนิกซ์ ที่มารับในบท อาเธอร์ และ เลดี้ กาก้า ที่มาร่วมแจมในบทของฮาร์ลีย์ ควินน์ (ลี) จริงหรือว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีการนำเสนอเรื่องราวที่มีโทนและรูปแบบที่แตกต่างกันจากในภาคแรกสักเล็กน้อยค่ะ

ทั้งยังมีการเพิ่มองค์ประกอบของ musical เข้ามาด้วย โดยรวมแล้วเป็นรูปแบบของการผสมผสานให้ตัวของภาพยนตร์นั้นมีความน่าตื่นเต้นและน่าติดตามมากยิ่งขึ้นนะคะ

 เจาะเบื้องลึกบทวิจารณ์ของ Joker Folie a Deux (2024)

สำหรับบทวิจารณ์ ในเรื่องราวของภาพยนตร์ เจาะเบื้องลึกบทวิจารณ์ของ Joker Folie a Deux (2024) นั้นยังมีหลายคนที่รู้สึกว่าภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ยังค่อนข้างที่จะขาดความเชื่อมโยงกับภาคแรก โดยจะมีเนื้อเรื่องที่ชวนให้สับสนทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้แยกออกมาแล้วไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เหมือนภาคเดิม พร้อมทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่มีการพูดถึงปัญหาสุขภาพจิตแต่กลับถูกมองว่าเป็นการนำเสนอในเชิงลบ โดยนักวิจารณ์ยังชี้ให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ส่งเสริมภาครัฐที่ผิดเกี่ยวกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตอีกด้วยค่ะ

จุดเด่นของ Joker Folie a Deux (2024)

สำหรับจุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีหลายมุมมองตั้งแต่การกลับมาของนักแสดงหลักอย่าง วาคิน ฟีนิกซ์ โดยเขากลับมารับบท อาเธอร์ แฟล็ก (โจ๊กเกอร์ ) และยังมี Lady Gaga เข้ามารับบทของฮารี่ควีน (ลี) อีกต่างหาก ที่ทำให้เห็นถึงการแสดงที่มีพลังและน่าติดตามเป็นที่สุดค่ะ พร้อมในเรื่องที่มีองค์ประกอบของ Musical ที่จะแตกต่างจากภาคแรกโดยสิ้นเชิงโดยเป็นการใช้การเต้น และเพลงเพื่อสื่อสารอารมณ์ของตัวละครเพิ่มให้คนดูได้รู้สึกถึงความโรแมนติกและจินตนาการ พร้อมทั้งงานถ่ายแบบและออกแบบฉากที่ได้รับคำชื่นชมแบบล้นหลามกับการนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ผ่านการสร้างสรรค์ที่ท้าทายทำให้ผู้ชมต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ในเรื่องได้แบบสุดมันส์ เรียกได้ง่ายๆ ว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าติดตามเป็นที่สุดแห่งปีเลยทีเดียวค่ะ

ความรู้สึกหลังชม Joker Folie a Deux (2024)

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับคำชื่นชมจากการแสดงที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผู้รับบทนำอย่าง วาคิน ฟีนิกซ์ หรือจะเป็น Lady Gaga ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเข้มข้นของอารมณ์บวกกับองค์ประกอบของ Musical ที่มากันแบบจัดเต็ม ทำให้มีความโดดเด่นแตกต่างจากภาคแรกโดยสิ้นเชิง ที่มาพร้อมกับฉากพร้อมบรรยากาศที่สวยงามทำให้ผู้ชมทุกคนกำลังรู้สึกเหมือนว่ากำลังชมงานศิลปะบนจอขนาดใหญ่เลยทีเดียวค่ะ