รีวิวหนัง เทอม 3 เรื่องสยองขวัญในแวดวงนักศึกษา

หนังเรื่องเทอม 3 เป็นหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งที่พึ่งที่จะเข้าโรงหนังไปไม่นาน ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากว่า เป็นหนังที่ทำออกมาได้ไม่สมเท่ากับภาคแรก ที่เป็นมหาลัยสยองขวัญหรือแม้กระทั่งเทอม 2 แต่อย่างใดซึ่งตัวบทบาทโดยรวมของเรื่องนั้น ก็มีความแตกต่างกันมากทำให้บทบาทของตัวละครยังดึงศักยภาพออกมาไม่ถึงความเป็นหนังผีสไตล์วัยนักศึกษา ที่มีความสดใหม่และเรื่องราวหลอนเท่าที่ควร หลายๆ คน ก็ได้ให้ข้อสังเกตออกมา โดยเฉพาะผู้ชมก็ตามบอกว่าปัญหาหลักก็น่าจะเกิดขึ้นจากผู้กำกับ ที่ไม่ใช่คนเดิมทั้ง 3 ภาค เป็นสิ่งที่ทำให้ตัวหนังขาดความเข้าใจและดูแตกต่างเป็นสิ่งที่ย้อนแย้ง แต่พยายามนำเสนอออกมาให้อยู่ใน Concept เดียวกัน

คำวิจารณ์จากทางด้านนักวิจารณ์หนัง

ลักษณะหนังออกแนวทั่วไป หลายคนที่เป็นผู้ที่เข้าไปชมกลุ่มแรกๆ ก็รู้สึกว่าจะผิดหวังเล็กน้อยเพราะว่าถ้าหากเปรียบเทียบกับทางด้านหนังทั้ง 2 ภาค ก่อนหน้าที่นำเสนอออกมาได้อย่างถึงเครื่องและโดดเด่นในการตีบทและอารมณ์เข้าถึงตัวละคร ถือว่าเทอม 3 นี้ ยังเป็นหนังที่ยังไม่ได้รับความเข้าใจในบทบาทอย่างเต็มที่จนทำให้คะแนนโดยรวมอยู่ที่ 5/10 เมื่ออยู่ในโรงของต่างประเทศคาดว่าน่าจะลำบากมากๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะเนื้อหาโดยรวมที่ยังไม่มีจุดไคลแม็กซ์และยังสื่อถึงอารมณ์ไม่ค่อย ได้ฟิวส์การแสดง ถือว่าเป็นจุดใหญ่ที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ถ้าหากยังอยากที่จะมีภาคต่อไป

เนื้อหาของแต่ละตอนที่ถูกแบ่งออกมาในเรื่อง

ในตอนแรกเป็นลักษณะตอนที่ 1 เจ้านาง ตัวบอร์ดนั้นดูดีมากที่สุดใน 3 เรื่องที่นำออกมาและนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ รวมไปถึงความน่ากลัวแลดูสยดสยอง แต่ผู้กำกับไม่สามารถคอนโทรลจังหวะให้ออกมาได้ดีเท่าที่ควร ทำให้บางอารมณ์ยังไปไม่สุดในความหวาดกลัวและบางช่วงก็ทิ้งฉากให้เนิ่นนานจนเกินไป

ส่วนตอนที่ 2 เนื้อเรื่องออกแนววกวนเล็กน้อย แต่พยายามที่จะนำเสนอความวิตกกังวลและความซีเรียสของตัวละครเข้ามามาก จนทำให้ความน่ากลัวขาดหายไปและสิ่งที่แย่อีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเรื่องราวจุดเชื่อมโยงหลายจุดขาดหายไป จึงทำให้เรื่องราวโดยรวมไม่ปะติดปะต่อกันนั่นเอง

ส่วนตอนที่ 3 ของเรื่อง ศาลล่องหน ตัวเนื้อหาโดยรวมอยากที่จะให้เป็นรูปแบบความน่ากลัวและเป็น Comedy แต่ตัวหนังและตัวละครกับเล่นมุกและสีหน้าที่เป็นตลกฝืดไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังสื่ออารมณ์ไม่ได้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ภาพโดยรวมเรื่องนี้กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่แฟนหลายๆ คนต่างรู้สึกเคลือบแคลงใจที่จะเข้าไปติดตามรับชม

แต่อย่างไรก็ตามตัวหนังในภาพรวมก็ถือว่าทำออกมาได้ดี ในระดับที่นำนักแสดงหน้าใหม่และตัวละครต่างๆ ที่กล้านำเสนอความแตกต่างออกมาเป็นจำนวนมากแต่ถ้าหากให้เปรียบเทียบกับความประทับใจก่อนหน้ากับหนังทั้ง 2 ภาค ต้องขอบอกเลยว่าองค์ประกอบโดยรวมถือว่าทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมาเด่นกว่าอย่างชัดเจน